ไม่ถึงสามทศวรรษที่ผ่านมา “ดูไบ (Dubai)” ยังเป็นเมืองท่าที่พึ่งพารายได้จากน้ำมันเป็นหลัก
แต่ปัจจุบันได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งใน ศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของโลก (Global Economic Hub)
และยังคงเดินหน้าสู่อนาคตด้วยแผนยุทธศาสตร์ที่ทะเยอทะยานที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมือง —
นั่นคือ Dubai Economic Agenda D33
โครงการ D33 ถือเป็นการต่อยอดจาก Dubai Vision 2030 เดิม
โดยมีเป้าหมายในการ “ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจของดูไบ” เพื่อให้พร้อมสำหรับเศรษฐกิจยุคดิจิทัล
และยกระดับเมืองให้กลายเป็นหนึ่งใน สามศูนย์กลางเศรษฐกิจชั้นนำของโลกภายในปี 2033
เป้าหมายหลักของ Dubai Economic Agenda D33

ภายใต้คำประกาศของ Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum แผน D33 มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการผลักดันดูไบให้เติบโตเป็น มหานครเศรษฐกิจระดับโลกที่ยั่งยืนและแข่งขันได้
เป้าหมายสำคัญ ได้แก่
- เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของดูไบเป็น 32 ล้านล้าน AED ภายในปี 2033
(ประมาณ 8.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ — เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากปี 2023 ที่ราว 490 พันล้าน AED) - สร้างงานใหม่กว่า 400,000 ตำแหน่ง
- เพิ่มการค้าระหว่างประเทศของดูไบให้แตะระดับ 25 ล้านล้าน AED ภายใน 10 ปี
- ติดอันดับ Top 3 เมืองเศรษฐกิจของโลก
“D33 คือแผนที่จะทำให้ดูไบเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่มีพลวัตที่สุดในโลก —
เมืองที่ผสมผสานระหว่างนวัตกรรม ความสามารถ และโอกาส”
— Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum
เสาหลักของยุทธศาสตร์ D33
1. Diversified Economy — เศรษฐกิจที่หลากหลาย
ปัจจุบัน รายได้จากน้ำมันคิดเป็นน้อยกว่า 1% ของ GDP ของดูไบ
รัฐบาลจึงมุ่งเน้นการสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพาภาคบริการและนวัตกรรมเป็นหลัก เช่น
- การค้าและโลจิสติกส์ (Trade & Logistics)
- การเงินและฟินเทค (Finance & FinTech)
- การท่องเที่ยวและบริการระดับโลก (Tourism & Hospitality)
- เทคโนโลยีและพลังงานสะอาด (Technology & Renewable Energy)
2. Smart & Digital Economy — เศรษฐกิจอัจฉริยะ
ดูไบลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ผ่านหน่วยงาน Digital Dubai Authority
และโครงการสำคัญ เช่น
- Dubai Blockchain Strategy
- Dubai AI Strategy
- Dubai Future Labs และ Dubai Centre for AI (เปิดตัวปี 2024)
โครงการเหล่านี้ช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven Economy)
และส่งเสริมให้ภาคเอกชนปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
3. Global Trade & Investment Hub — ศูนย์กลางการค้าและการลงทุนโลก
ดูไบเป็นเมืองที่เชื่อมต่อ เอเชีย ยุโรป และแอฟริกา อย่างสมบูรณ์แบบ
รัฐบาลจึงเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง เช่น
- ท่าเรือ Jebel Ali Port — ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง และติดอันดับ Top 10 ของโลก
- สนามบิน DXB และ DWC — สนามบินที่มีผู้โดยสารระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก
- Etihad Rail — ระบบรางขนส่งสินค้าที่ยาวกว่า 900 กิโลเมตร เชื่อม 7 เอมิเรตส์เข้าด้วยกัน
สิ่งเหล่านี้ทำให้ดูไบเป็น “Multimodal Hub” ที่เชื่อมต่อโลจิสติกส์ทุกระบบในเมืองเดียว
4. Talent & Innovation Economy — เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยคนเก่งและไอเดีย
รัฐบาลให้ความสำคัญกับ “ทุนมนุษย์” เป็นอย่างมาก
โดยมีโครงการ UAE Golden Visa (5–10 ปี) สำหรับนักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ประกอบการ
รวมถึง Sandbox Dubai สำหรับสตาร์ทอัปเทคโนโลยี ซึ่งเริ่มนำร่องในปี 2024–2025
ดูไบยังเปิดตัว Dubai Future Foundation เพื่อสร้างระบบนิเวศแห่งนวัตกรรม
และดึงดูดผู้มีความสามารถระดับโลกเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต
เมืองแห่งโอกาสสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

ดูไบมีเขตเศรษฐกิจเสรี (Free Zones) มากกว่า 40 เขต
เปิดให้นักลงทุนต่างชาติถือหุ้นได้ 100% และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหลากหลายรูปแบบ
ตั้งแต่การจดทะเบียนบริษัท ไปจนถึงการขอใบอนุญาตประกอบกิจการ
นอกจากนี้ ระบบราชการที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ทำให้กระบวนการต่าง ๆ
— ตั้งแต่การออกใบอนุญาต ไปจนถึงการจัดการเอกสาร — สามารถทำได้ภายในไม่กี่วันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
“Dubai is open for business — for everyone, everywhere.”
— Dubai Media Office, 2024
ความหมายของ D33 ต่อผู้ประกอบการไทย
สำหรับผู้ประกอบการไทย แผน D33 ไม่ใช่แค่โอกาส แต่คือ จังหวะเวลาที่ใช่
เพราะดูไบกำลังเร่งเปิดตลาดใหม่ในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่เทคโนโลยี บริการ ไปจนถึงสินค้าผู้บริโภค
กลุ่มธุรกิจที่เหมาะกับนักลงทุนไทย:
- อาหารและเครื่องดื่ม (F&B / Franchise)
- Wellness & Spa Services
- Digital Marketing & Consulting
- Logistics, Trading, และ Import–Export
- Education & Professional Services
ผู้ประกอบการไทยที่เข้าไปตั้งรากฐานในดูไบวันนี้ จะอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบในอนาคต
เมื่อเศรษฐกิจตะวันออกกลางและเอเชียรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น
สรุป: วิสัยทัศน์แห่งอนาคตที่เกิดขึ้นจริงแล้ววันนี้
“Dubai Economic Agenda D33”
คือแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่สะท้อนจุดแข็งของดูไบในฐานะเมืองที่ไม่หยุดนิ่ง
เมืองที่กล้าคิด กล้าสร้าง และกล้าทำ เพื่อเป็นผู้นำเศรษฐกิจแห่งอนาคต
จากการลงทุนในเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน และทรัพยากรมนุษย์
ดูไบได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า — “อนาคตของเศรษฐกิจโลก เริ่มต้นที่นี่”
เริ่มต้นเส้นทางธุรกิจของคุณในดูไบ กับ InvestinAsia
หากคุณต้องการเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจแห่งอนาคต
InvestinAsia พร้อมช่วยคุณวางแผนการลงทุนและจัดตั้งบริษัทในดูไบครบทุกขั้นตอน
ตั้งแต่การเลือก Free Zone, การขอใบอนุญาต ไปจนถึงการขอวีซ่าพำนักระยะยาว
เริ่มต้นก้าวแรกของคุณวันนี้ — รับคำปรึกษาฟรีกับผู้เชี่ยวชาญของเรา
Tel: (+66) 2 1188 999
Email: hello@investinasia.co.th
Website: https://investinasia.co.th
