โอกาสของนักลงทุนไทยในดูไบ — ตลาดใหม่ที่เปิดรับทุกอุตสาหกรรม

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดูไบ (Dubai) ได้กลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดของโลก เมืองนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวหรืออสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่ยังเป็น “จุดยุทธศาสตร์ของนักลงทุน” ที่ต้องการขยายธุรกิจสู่ตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป

สำหรับนักลงทุนไทย ดูไบถือเป็น ตลาดใหม่ที่เปิดรับทุกอุตสาหกรรม ด้วยกฎหมายธุรกิจที่ยืดหยุ่น ระบบภาษีที่เป็นมิตร และโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกที่พร้อมรองรับผู้ประกอบการจากทุกประเทศ


ทำไมดูไบถึงดึงดูดนักลงทุนไทย

1. ระบบภาษีที่เป็นมิตรและโปร่งใส

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ไม่มีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และจัดเก็บ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 5% ทั่วประเทศ
ในส่วนของภาษีนิติบุคคล ปัจจุบันอัตรามาตรฐานอยู่ที่ 9% (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีภาษี 2023/2024)
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่ตั้งอยู่ใน Free Zone อาจได้รับอัตรา 0% สำหรับ รายได้ที่เข้าเกณฑ์ (Qualifying Income) หากเป็น “Qualifying Free Zone Person (QFZP)” ตามแนวทางของกระทรวงการคลัง (MoF)

ระบบภาษีดังกล่าวช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสิทธิประโยชน์ทางธุรกิจที่โปร่งใสและแข่งขันได้ในระดับสากล

2. ถือหุ้นได้เต็ม 100% สำหรับนักลงทุนต่างชาติ

กฎหมายบริษัทฉบับปรับปรุงของ UAE เปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติสามารถ ถือหุ้นในกิจการได้ 100%
โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Free Zone) เช่น Dubai Multi Commodities Centre (DMCC), Meydan Free Zone, และ Dubai South
ขณะเดียวกัน ธุรกิจบางประเภทบนเมนแลนด์ก็เปิดให้ต่างชาติถือหุ้นเต็มได้แล้วในหลายสาขา (ขึ้นอยู่กับรายการกิจการที่ได้รับอนุญาต)

3. ทำเลที่ตั้งเชื่อมสามทวีป

ดูไบตั้งอยู่ในตำแหน่งยุทธศาสตร์ระหว่างเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา จึงเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้า และการค้าระหว่างประเทศ
ระบบศุลกากรของดูไบเรียบง่ายและมีอัตราภาษีนำเข้าทั่วไปเพียง 5% ของมูลค่าสินค้า (CIF)
ในขณะที่สินค้าที่อยู่ในเขต Free Zone หรือ Designated Zone จะปลอดภาษีตราบใดที่ยังไม่ถูกนำเข้าสู่ตลาดเมนแลนด์

4. โครงสร้างพื้นฐานระดับโลกและ Smart Services

ดูไบมีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ครอบคลุมทั้งสนามบิน ท่าเรือ ถนน และระบบดิจิทัล
ธุรกิจสามารถใช้บริการของภาครัฐได้เกือบทั้งหมดผ่านระบบออนไลน์ เช่น e-License, e-Visa, และ e-Banking
นโยบาย “Smart Dubai” ยังสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี AI และระบบข้อมูลแบบบูรณาการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจอย่างยั่งยืน


อุตสาหกรรมที่นักลงทุนไทยมีศักยภาพในดูไบ

1. อาหารและเครื่องดื่ม (F&B)

อาหารไทยได้รับความนิยมในตลาดดูไบอย่างกว้างขวาง ทั้งในหมู่ชาวเอมิเรตส์และชาวต่างชาติ
ผู้ประกอบการสามารถเปิดร้านอาหาร นำเข้าสินค้า หรือร่วมลงทุนกับเชนท้องถิ่นได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะในเขต Free Zone ที่สนับสนุนธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร

2. สุขภาพและความงาม (Wellness & Beauty)

ผลิตภัณฑ์ความงามและสมุนไพรจากไทยมีชื่อเสียงในตลาดตะวันออกกลาง
ธุรกิจสปา คลินิกสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจากไทยได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้ม Wellness Economy ของดูไบ

3. เทคโนโลยีและดิจิทัลเซอร์วิส (Tech & Digital Services)

รัฐบาลดูไบประกาศ “Dubai Digital Economy Strategy” เพื่อยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลให้มีสัดส่วนกว่า 20% ของ GDP ภายในปี 2031
เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในสายเทคโนโลยี พัฒนาแอปพลิเคชัน เอเจนซี่การตลาดออนไลน์ หรือ SaaS Platform เข้ามาขยายตลาดได้อย่างเต็มรูปแบบ

4. การท่องเที่ยวและบริการ (Tourism & Hospitality)

ปี 2023 ดูไบต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 17.15 ล้านคน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมแบบไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดนักท่องเที่ยวเอเชียและยุโรปที่มีกำลังซื้อสูง


สิทธิประโยชน์และแรงจูงใจจากรัฐบาลดูไบ

รัฐบาล UAE ส่งเสริมการลงทุนต่างชาติผ่านมาตรการหลากหลาย เช่น

  • Golden Visa Program – วีซ่าพำนักระยะยาว 5–10 ปี สำหรับนักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ประกอบการ
  • Free Zone Incentives – สิทธิประโยชน์ทางภาษีและการจดทะเบียนบริษัทแบบเร่งรัด
  • Trade Facilitation – ระบบศุลกากรทันสมัยและลดภาษีนำเข้าสินค้าหลายประเภท
  • Smart Business Services – ระบบบริการภาครัฐดิจิทัลครบวงจร สนับสนุนการจัดตั้งบริษัท การขอวีซ่า และการดำเนินธุรกิจออนไลน์

ความร่วมมือไทย–ดูไบที่กำลังเติบโต

ไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจใกล้ชิด และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจรอบด้าน (Comprehensive Economic Partnership Agreement – CEPA)
ข้อตกลงนี้คาดว่าจะช่วยลดอุปสรรคทางการค้าและเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าจากไทย เช่น อาหาร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และเครื่องสำอาง เข้าสู่ตลาด UAE
แม้ข้อตกลงยังไม่ประกาศใช้จริงในปี 2025 แต่การเจรจามีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องและได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐและเอกชน


สรุป: ทำไม “ตอนนี้” คือเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับนักลงทุนไทยในดูไบ

ดูไบคือเมืองที่รวมความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โอกาสทางธุรกิจ และคุณภาพชีวิตระดับโลกไว้ในที่เดียว
ด้วยนโยบายเปิดรับนักลงทุนต่างชาติ โครงสร้างพื้นฐานระดับสากล และทิศทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน
นี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักลงทุนไทยในการก้าวเข้าสู่ตลาดดูไบ — เมืองที่เป็นประตูสู่โลกการค้าแห่งอนาคต


พร้อมขยายธุรกิจสู่ดูไบหรือยัง?

ทีมที่ปรึกษาของ InvestinAsia พร้อมให้คำแนะนำครบวงจร ตั้งแต่การวางแผนโครงสร้างบริษัท ไปจนถึงการยื่นขอใบอนุญาต และวีซ่าพำนักในดูไบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เริ่มต้นก้าวแรกของคุณวันนี้ — รับคำปรึกษาฟรีกับผู้เชี่ยวชาญของเรา

Tel: (+66) 2 1188 999
Email: hello@investinasia.co.th
Website: https://investinasia.co.th

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *